
ตอนเช้าในระหว่างที่นั่งรถมหาลัยจากกล้วยมารังสิตรถของมหาลัยบางคันมันจะมีที่นั่งด้านล่างด้วยแบบรถทัวร์ที่มันจะเป็นเบาะวงกลมแล้วมีโต๊ะอยู่ตรงกลาง ด้วยความประหยัดน้ำมันมากของรถมหาลัยชอบให้เด็กนั่งเบียดกันจนเต็มคันก่อนค่อยออกรถ เราเข้าไปตอนนั้นเบาะด้านบนมันเต็มจึงต้องไปนั่งเบาะวงกลมด้านล่างรวมกับเด็กกลุ่มนึงที่เขานั่งกันอยู่แล้วข้างล่าง ด้วยความที่เบาะมันเป็นวงกลมนั่งรอบกันอยู่สายตาก็ต้องจองมองกับคนที่นั่งฝั่งตรงข้ามเพราะไม่รู้ว่าจะมองไปทางไหน เด็กกลุ่มนั้นเขาคุยกันอยู่ดีๆก็มาชวนเราคุยขึ้นมาว่า"อยู่ปีอะไรเรียนคณะอะไรหรอคับ" พอเราบอกปี 4 เด็กพวกนั้นทั้งผู้ชายผู้หญิงก็ดันมาตกใจเราคิดว่าเราพึ่งอยู่ปี 1 เห็นหน้าเราเด็ก(แอบภูมิใจ) พวกกลุ่มนั้นเขาก็อยู่ปี 1 ไอ้เราก็คิดว่าเป็นรุ่นพี่เราซะอีกเห็นหน้าแก่กว่าแต่พึ่งนึกได้ว่าตัวเองอยู่ปี 4 นี่หว่าจะมีรุ่นพี่ได้ไง555 ระหว่างนั้นเขาก็ชวนคุยเรื่องนู้นนี้ไปสักพักว่าโรงเรียนเก่าเรียนที่ไหน ในคณะเราเรียนไรกันบ้าง กลับรถมหาลัยทุกวันเลยหรอตั้งแต่ปี 1 ทำได้ไง ไอ้เราก็คุยกับเขาด้วยคำถามเดียวกันนั้นแหละก็ได้รู้จักคนนู้นคนนี้เพิ่มขึ้นในวันนั้นมีทั้งคนเรียนบริหาร,บัญชี ปี 1วิศวะอีกคนอยู่ปี 2 ระหว่างคุยไปคุยมามีคนนึงเขาก็ถามเราว่า พี่เคยเดินข้ามสะพานตรงศาลาเรือนไทยหรือเปล่าอะในมหาลัยเห็นเขาบอกว่าถ้าเรานับเป็ดในบ่อได้กี่ตัวแสดงว่าเราจะเรียนจบได้ปีเท่ากับที่เรานับ ก็คุยไปสักพักบางคนก็นับได้สามบ้างสี่บ้างเพื่อนของเพื่อนเขานับได้เจ็ดตัวซวยมากแต่เราก็ไม่เคยนับอะก็แกล้งบอกไปว่าไม่ค่อยได้เรียนตึกแถวนั้นเรียนแต่ตึกคณะตัวเองเลยไม่ได้นับ แต่จริงๆไอ้เราก็พึ่งได้ยินความเชื่อนี้มาก็วันนี้อะเรียนมาตั้ง 4 ปีต้องไปหาเวลาไปนับบ้างและ การที่เราได้รู้จักกับคนใหม่ๆได้คุยกับคนรอบข้างมันช่วยให้เราได้รู้เรื่องสิ่งต่างๆรอบตัวเราได้มากเหมือนกันพอมาลองคิดดูถึงจะคุยเรื่องไร้สาระก็ตามแต่ก็ควรคุยกันถึงเรื่องที่มันมีสาระบ้างเดี๋ยวสมองจะฟ่อกันพอดี หากว่าวันนี้เด็กพวกนั้นไม่มาคุยกับเรา เราก็คงไม่ได้รู้เรื่องพวกนี้ก็ได้
1 comment:
รู้มาตั้งแต่ปีหนึ่งแล้วเหอะ
แต่เขาว่านับแล้วจะเรียนไม่จบเลยไม่เคยันบ
จริงๆ
Post a Comment